เล่นบาคาร่า สอนวิธีเลือกห้องคาสิโน Baccarat Online ไม่ว่าจะเล่นบาคาร่าแบบไหน ทุกแบบต่างมีกติกาที่ใกล้เคียงกันเกือบ 100% แต่อย่างหนึ่งที่ผู้เล่นหลายคนมองข้ามไปคือการเลือก “ห้องบาคาร่า” ในการเดิมพันกับเว็บพนันเบอร์ 1 ในวงการคาสิโนไทย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เซียนพนันออนไลน์ หาเงินกับเกมส์ บาคาร่า ได้สำเร็จ ทุกคนควรจะเลือกห้องเล่นยังไง เลือกห้องเล่นที่ดีแล้วช่วยอะไรได้บ้าง
ข้อมูลเบื้องต้นที่ต้องรู้ทั้งหมดใน Baccarat Online เล่นบาคาร่า สอนวิธีเลือกห้องคาสิโน
- ปัจจุบันเกมบาคาร่าออนไลน์เปิดให้บริการ 4 รูปแบบ ได้แก่ บาคาร่าออนไลน์, บาคาร่าวัววัว, บาคาร่า 4 ตังค์ และบาคาร่าซุปเปอร์ซิกส์
- ไพ่ในเกมบาคาร่าจะใช้ทั้งหมด 52 ใบ ประกอบด้วยแต้ม A, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, J, ,Q และ K ซึ่งบนหน้าไพ่มาตรฐาน 4 แบบ โพดำ, โพแดง, ดอกจิก และข้าวหลามตัดอย่างละ 13 ใบเท่ากัน โดยนับแต้มบนหน้าไพ่เลข 2-9 ส่วนหน้าไพ่ J, Q, K จะนับแต้มเป็น 0 แต้ม และหน้าไพ่ A จะนับแต้มเป็น 1 แต้ม
- ผู้เล่นในเกมจะมีเจ้ามือ (Banker) 1 คน, ผู้เล่น (Player) 1 คน และคนแจกไพ่ (Dealer) 1 คน โดยการวางเดิมพันของผู้เล่นแต่ละคนจะถูกพิจารณาเป็นรายบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับผลไพ่ของผู้เล่นคนอื่น
- วิธีการเล่นจะให้ดีลเลอร์แจกไพ่ให้กับ Player และ Banker คนละ 2 ใบ โดยให้ทั้งสองฝายหงายไพ่ทั้งหมดที่จับได้ แต่ละฝ่ายสามารถจั่วไพ่เพิ่มอีก 1 ใบหากเงื่อนไขบาคาร่าตรงกับข้อกำหนดก่อนตัดสินผลแพ้ชนะ เมื่อเริ่มเกมต่อไปจะแจกไพ่จาก 52 ใบเหมือนกันทุกรอบ
- วางเดิมพันเกมจะตัดสินตามเงื่อนไขต่างๆ เกิดขึ้นในเกม พร้อมจ่ายเงินเดิมพันตามสัดส่วนที่ทางเว็บไซต์ Prettygaming168 กำหนดไว้ตั้งแต่ 0.5-11 เท่า จากทั้งหมด 7 เงื่อนไข ได้แก่ ผู้เล่นชนะ (Player Win) เจ้ามือชนะ (Banker Win) เกมเสมอ (Tie Game) ผู้เล่นไพ่คู่ (Player Pair) เจ้ามือไพ่คู่ (Banker Pair) แทงสูง (Big) และแทงต่ำ (Small)
- กติกาหลักที่บาคาร่าวัว (Baccarat Cow) ต่างจากบาคาร่าปกติ (Baccarat Online) มีอยู่ 2 เงื่อนไขใหญ่ ได้แก่ เกมจะใช่ไพ่ใบที่เหลืออยู่ในสำรับไปเรื่อยๆ จนกว่าจะใช้หมดทั้ง 52 ใบ และวางเดิมพันเฉพาะ 3 เงื่อนไขใหญ่ ได้แก่ ผู้เล่นชนะ เจ้ามือชนะ และเกมเสมอ โดยทั้ง 3 ผลลัพธ์ให้อัตราจ่ายเฉลี่ยสูงถึง 1:8 หรือ 1:9
- เค้าไพ่บาคาร่า เป็นสถิติผลการเดิมพันระหว่าง Player และ Banker ในโต๊ะพนันหรือห้องเล่นบาคาร่าออนไลน์ โดยทั่วไปจะแสดงฝ่ายที่ชนะพนันผ่านสัญลักษณ์สีแดง (เจ้ามือ) กับสัญลักษณ์สีน้ำเงิน (ผู้เล่น) บนตารางสถิติบาคาร่า และผลการเล่นที่เกิดขึ้นทั้งหมด ส่วนใหญ่จะสดง “ความน่าจะเป็น” ของผลแพ้ชนะในห้องเล่นนั้นได้อย่างมีนัยสำคัญ เบื้องต้นสังเกตรูปแบบอย่างง่ายๆ ได้ 5 รูปแบบดังนี้
- เค้าไพ่มังกร รูปแบบเกมที่ออกไพ่ชนะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งติดต่อกันหลายๆ ครั้งตั้งแต่ 4-5 ครั้งขึ้นไป ถ้าออกฝ่ายแดง (เจ้ามือ) จะเรียกว่า “ไพ่มังกรแดง” ถ้าออกฝ่ายน้ำเงิน (ผู้เล่น) จะเรียกว่า “ไพ่มังกรน้ำเงิน”
- เค้าไพ่ปิงปอง รูปแบบเกมที่ไพ่ออกชนะสลับกันไปมาติดต่อกันหลายครั้ง เช่น แดง, น้ำเงิน, แดง, น้ำเงิน ต่างฝ่ายต่างผลัดกันแพ้ชนะไปเรื่อยๆ
- เค้าไพ่สองตัวตัด รูปแบบเกมที่ไพ่ออกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งติดต่อกันไม่เกิน 2 ครั้ง เมื่อชนะติดต่อกันครบ 2 ครั้งแล้วจะตัดไปที่อีกฝ่าย เรียกแยกตามฝ่ายที่ชนะติดต่อกันได้
- เค้าไพ่สามตัวตัด รูปแบบเกมที่ไพ่ออกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งติดต่อกันไม่เกิน 3 ครั้ง เมื่อชนะติดต่อกันครบ 3 ครั้งแล้วจะตัดไปที่ฝ่ายตรงข้าม เรียกแยกตามฝ่ายที่ชนะติดต่อกันได้
- เค้าไพ่สี่ตัวตัด รูปแบบเกมที่ไพ่ออกผลชนะติดต่อกันไม่เกิน 4 ครั้ง เมื่อชนะเกมติดต่อกันครบ 4 ครั้งแล้ว ไพ่จะตัดเป็นออก 4 ครั้งในฝั่งตรงข้าม
การเลือกห้องบาคาร่า สำคัญอย่างไรกันแน่?
การเลือกห้องบาคาร่าในมุมมองเซียนพนัน จัดเป็นอีกเทคนิคที่จำเป็นต่อการลงทุนเดิมพันคาสิโน เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากเกมที่ผ่านไปแล้ว ล้วนเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้วางเงินได้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น สำหรับผู้เล่นมือาชีพแล้วจะไม่เข้าห้องบาคาร่าแบบสุ่มสี่สุ่มห้าเด็ดขาด แต่จะสังเกตยังไงว่าห้องทางเข้าเล่นบาคาร่าแบบไหนควรจะเล่นหรือไม่ควรเล่น เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างยุ่งยากและละเอียดอ่อนพอสมควร
เหตุผลสำคัญที่จำเป็นต้องคัดเลือกห้องบาคาร่าให้ดีก่อนเล่น สถิติที่เกิดขึ้นในแต่ละห้องล้วนสร้าง “เค้าไพ่บาคาร่า” ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ และปรากฎการณ์นี้มีผลต่อรูปเกมบาคาร่าในเกมต่อๆ ไปด้วย โดยทั่วไปเค้าไพ่บาคาร่าระดับ Basic เป็นการเน้นจับสถิติผลแพ้ชนะต่อเนื่องกันไม่เกิน 5 ครั้งเป็นหลัก นั่นเป็นเพราะการแพ้หรือชนะติดๆ กัน 4-5 ครั้งขึ้นไป ถือเป็นสถิติมาตรฐานในเกมบาคาร่าออนไลน์
จากข้อมูลตรงนี้ทำให้ เค้าไพ่ถูกใช้ในการอ่านรูปเกมว่าจะเกิดการผลแพ้ชนะติดต่อกันหลายครั้งหรือไม่ และเกิดผลดังกล่าวกี่ครั้งก่อนจะสลับผลลัพธ์ไปยังฝ่ายตรงข้าม หากผู้เล่นมองส่วนนี้ออกตั้งแต่ก่อนเลือกห้องพนัน โอกาสทำเงินจากการเดิมพันตั้งแต่เกมแรกก็จะเป็นไปได้สูงทันที ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นระดับไหนก็สามารถใช้เทคนิคนี้ได้ เพราะเป็นหนึ่งในวิธีเอาชนะเกมบาคาร่าออนไลน์ ที่น่าสนใจนั่นเอง
สอนวิธีเลือกห้องคาสิโน บาคาร่า ต้องดูยังไง?
- ห้องบาคาร่าที่กำลัง Live การสังเกตการณ์เกมจากนอกสนาม ย่อมทำให้ผู้เล่นมองเห็นภาพรวมของเกมได้มากกว่าปกติ นอกจากตารางผลการเดิมพันแล้ว การชมเกมในบรรยากาศสดก็เป็นวิธีอ่านเกมบาคาร่าที่น่าสนใจ ส่วนนี้อาจดูไม่จำเป็น แต่ก็ไม่เสียหายที่จะนำวิธีนี้ไปใช้งานดูสักครั้ง
- ห้องบาคาร่าที่เล่นเกิน 10 รอบขึ้นไป เค้าไพ่บาคาร่าจะปรากฏขึ้นได้ในห้องเล่น จำเป็นต้องเริ่มเล่นบ้างแล้วอย่างน้อย 5-10 เกมชึ้นไป เพื่อให้เกิดข้อมูลบางส่วนขึ้นแล้วนำมาวิเคราะห์เกมต่อไป
- ห้องบาคาร่าที่มีเค้าไพ่มังกร เค้าไพ่ที่เกิดขึ้นยากที่สุดคือไพ่มังกร หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะติดต่อกันตั้งแต่ 5 เกมขึ้นไป และยังคงมีแนวโน้มชนะต่อไปเรื่อยๆ ห้องบาคาร่าที่เป็นมังกรแบบนี้จะทำให้ผู้เล่นเลือกแทงเงินได้ง่ายมาก เพราะฝ่ายที่ชนะรวดมาตลอดย่อมมีโอกาสจะมากกว่า
- ห้องบาคาร่าที่มีเค้าไพ่ปิงปอง อีกหนึ่งเค้าไพ่ที่สังเกตได้ง่าย และมีโอกาสเกิดขึ้นได้สูงกว่าเค้าไพ่มังกรคือเค้าไพ่ปิงปอง ซึ่งเกิดผลแพ้ชนะสลับกันไปมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้เล่นเลือกเดิมพันแบบสลับฟันปลา ไขว้ไปไขว้มาได้อย่างง่ายๆ อาจมีพลิกแพลงได้บ้างตามความชอบ
- ห้องบาคาร่าที่มีรูปแบบเค้าไพ่น้อย การเลือกห้องที่น่าลงทุนจริงๆ จะต้องเลือกเล่นในสภาพที่มีความผันผวนน้อยที่สุด เช่น ห้องที่เราสนใจจะต้องมีสถิติเกมเป็น มังกร / ปิงปอง / ตัด 2 / ตัด 3 / ตัด 4 อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือคละรูปแบบกันน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ยิ่งเค้าไพ่เกิดรูปแบบน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งวางเดิมพันง่ายขึ้นเท่านั้น
สรุปเทคนิคเกม บาคาร่า เลือกห้องยังไงให้ชนะง่ายที่สุด
“ห้องเล่นบาคาร่า” ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่เล่นพนันออนไลน์อย่างเดียว แต่ยังเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่นักพนันนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการเดิมพันด้วย ดังนั้นอย่ามองข้ามเรื่องนี้ไปเด็ดขาด เพราะการเข้าใจกติกาเกมอย่างลึกซึ้ง หรือใช้ สูตรบาคาร่าได้อย่างแม่นยำ อาจยังไม่เพียงพอที่จะชนะพนันบาคาร่าได้สำเร็จก็ได้ ก่อจะเข้าเล่นบาค่าราทุกครั้ง อย่าลืมสังเกตให้ดีว่าห้องไหนมีโอกาสวางเงินได้ง่ายที่สุด